๙๑. ข้อใดเป็นเจตนาของผู้แต่งคำประพันธ์ต่อไปนี้
อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย
๑. สอนให้รู้จักเลือกใช้อาวุธและสติปัญญาให้ถูกเวลา
๒. สอนเรื่องการใช้สติปัญญาและความรู้ให้ถูกจังหวะ
๓. แนะนำวิธีการใช้อาวุธให้เกิดผลดีตามความปรารถนา
๔. แนะนำวิธีการเก็บอาวุธเพื่อให้คมกริบเหมือนมีสติปัญญาอยู่เสมอ
เหตุผล ข้อ ๒ “ความคิด” และ “วิทยา” ในวรรคที่ ๑ หมายถึง การใช้สติปัญญาและความรู้ ซึ่งควรใช้ให้ถูกจังหวะ
ข้อ ๑ คำว่า อาวุธ ใช้เป็นคำเปรียบเท่านั้น
ข้อ ๓ ไม่ได้กล่าวถึงการใช้อาวุธ
ข้อ ๔ ไม่ได้กล่าวถึงการเก็บรักษาอาวุธ
ใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ตอบคำถาม ข้อ ๙๒ - ๙๓
๑. อันผัวพี่ดีเหลือเป็นเนื้อหน่อ เห็นต่อจะบุญหนักศักดิ์ใหญ่
รูปร่างน้อยจ้อยอร่อยใจ จงกอดไว้เถิดคะอย่าละวาง
๒. เออคะกระนั้นและจริงอยู่ รูปร่างผัวกูไม่สู้เหมาะ
ที่ไหนจะงามพร้อมเหมือนหม่อมเงาะ ใครเห็นก็หัวเราะว่ารูปงาม
๓. ถึงพี่จะรุ่งเรืองไปเบื้องหน้า ก็ไม่พึ่งวาสนาอย่าอวดอ้าง
ดีแต่จะมาพานรานทาง ไม่อดสูใจบ้างหรืออย่างไร
๔. จึงออกมาว่ากับลูกสาว ช่างทำความงามฉาวอีคนชั่ว
เสียยศเสียศักดิ์ไม่รักตัว เลือกผัวได้เงาะเห็นเหมาะใจ
๙๒. ข้อใด ไม่มี น้ำเสียงประชด
๑. ข้อ ๑
๒. ข้อ ๒
๓. ข้อ ๓
๔. ข้อ ๔
เหตุผล ข้อ ๓ เป็นการต่อว่า
ข้อ ๑ มีน้ำเสียงประชด เช่นคำว่า บุญหนักศักดิ์ใหญ่
ข้อ ๒ มีน้ำเสียงประชด เช่นคำว่า ที่ไหนจะงามพร้อม
ข้อ ๔ มีน้ำเสียงประชด เช่นคำว่า เหมาะใจ
๙๓. ข้อใด ไม่ได้ กล่าวถึงบุคคลที่ ๓
๑. ข้อ ๑
๒. ข้อ ๒
๓. ข้อ ๓
๔. ข้อ ๔
เหตุผล บุรษสรรพนาม คือ คำ สรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด แบ่งเป็นชนิดย่อยได้ 3 ชนิด คือ
๑.๑ สรรพนามบุรุษที่ ๑ ใช้แทนตัวผู้พูด เช่น ผม ฉัน ดิฉัน กระผม ข้าพเจ้า กู เรา ข้าพระพุทธเจ้า อาตมา หม่อมฉัน เกล้ากระหม่อม
๑.๒ สรรพนามบุรุษที่ ๒ ใช้แทนผู้ฟัง หรือผู้ที่เราพูดด้วย เช่น คุณ เธอ ใต้เท้า ท่าน ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ฝ่าพระบาท พระคุณเจ้า
๑.๓ สรรพนามบุรุษที่ ๓ ใช้แทนผู้ที่กล่าวถึง เขา มัน ท่าน พระองค์
๑.๑ สรรพนามบุรุษที่ ๑ ใช้แทนตัวผู้พูด เช่น ผม ฉัน ดิฉัน กระผม ข้าพเจ้า กู เรา ข้าพระพุทธเจ้า อาตมา หม่อมฉัน เกล้ากระหม่อม
๑.๒ สรรพนามบุรุษที่ ๒ ใช้แทนผู้ฟัง หรือผู้ที่เราพูดด้วย เช่น คุณ เธอ ใต้เท้า ท่าน ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ฝ่าพระบาท พระคุณเจ้า
๑.๓ สรรพนามบุรุษที่ ๓ ใช้แทนผู้ที่กล่าวถึง เขา มัน ท่าน พระองค์
ดังนั้น ข้อ ๓ มีบุรุษสรรพนามเพียงคำเดียวคือ “พี่” ซึ่งเป็นบุคคลที่ ๑
ข้อ ๑ ผัวพี่ เป็นคำที่กล่าวถึงบุคคลที่ ๓
ข้อ ๒ ผัวกู หม่อมเงาะ เป็นคำที่กล่าวถึงบุคคลที่ ๓
ข้อ ๔ ผัว เป็นคำที่กล่าวถึงบุคคลที่ ๓
๙๔. ข้อใดมีถ้อยคำแสดงอารมณ์ของตัวละคร
๑. ครั้นอ่านสารเสร็จสิ้นพระทรงฤทธิ์ ถอนฤทัยแล้วคิดสงสัย
๒. บุษบาจะงามสักเพียงไร จึงต้องใจระตูทุกบุรี
๓. เชิญเสด็จคลาไคลไปก่อน แล้วจึงค่อยผันผ่อนมากรุงศรี
๔. แม้นงามเหมือนจินตะหราวาตี ถึงจะเสียชีวีก็ควรนัก
เหตุผล ข้อ ๑ คำว่า ถอนฤทัย = ถอนใจ เป็นการแสดงอารมณ์หนักใจ
ข้อ ๒ เป็นความสงสัยว่าบุษบางามเพียงใดเท่านั้น
ข้อ ๓ กล่าวถึงการเชิญเสด็จไปแล้วกลับมายังกรุงศรี
ข้อ ๔ เป็นคำรำพึงว่าถ้านางงามมากก็สมควรเอาชีวิตเข้าแลก
๙๕. ข้อใดตีความได้ตรงกับข้อความต่อไปนี้
ลาภยศถาบรรดาดีที่มีอยู่ รวยเลิศหรูอยู่เรือนทองสองล้านสาม
สมบัติมากลากไม่ไหวใครจะปราม สุดท้ายหามแต่ร่างเน่าเท่านั้นเอง
๑. บางคนโชคดีได้ลาภยศและเงินทองโดยไม่มีใครขวางได้
๒. คนเราไม่ควรโลภมากเอาแต่ตักตวงความร่ำรวย ในที่สุดก็แบกไม่ไหว
๓. สมบัติทั้งหลายไม่ใช่สิ่งจีรังยั่งยืน มีความเปลี่ยนแปรอยู่เสมอ
๔. คนเราเมื่อถึงคราวตายก็เอาเกียรติยศและทรัพย์สินติดตัวไปไม่ได้
เหตุผล ข้อ ๔ วรรคสุดท้ายกล่าวถึงความตายที่เอาอะไรไปไม่ได้
ข้อ ๑ เป็นความหมายของวรรคที่ ๑-๓ เท่านั้น
ข้อ ๒ ไม่ได้กล่าวถึงความตายซึ่งเป็นจุดจบของทุกสิ่ง
ข้อ ๓ กล่าวถึงเฉพาะสมบัติว่าไม่ยั่งยืน
๙๖. ข้อใด ไม่ได้ กล่าวถึงในคำประพันธ์ต่อไปนี้
ชนใดมีชาติเชื้อ เลวทราม
เพียรอุตส่าห์พยายาม หมั่นหมั้น
อยู่บดอยู่ฝนความ รู้แก่ เกินแฮ
กลับยศใหญ่ยิ่งชั้น เช่นเชื้อผู้ดี
๑. คนเราควรตั้งอยู่ในความขยันหมั่นเพียร
๒. การแสวงหาความรู้เป็นประจำนำไปสู่ความสำเร็จ
๓. คนนิสัยเลวอาจเปลี่ยนกลับกลายเป็นคนนิสัยดีได้
๔. คนที่มีกำเนิดต่ำอาจพัฒนาจนเปลี่ยนสถานภาพให้สูงขึ้นได้
เหตุผล ข้อ ๓ ในโคลงบทนี้ไม่ได้กล่าวถึงการที่คนเลวเปลี่ยนเป็นคนดี
ข้อ ๑ บาทที่ ๒ กล่าวถึงความเพียร
ข้อ ๒ บาทที่ ๒, ๓, ๔ กล่าวถึงการพยายามหาความรู้ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ
ข้อ ๔ บาทที่ ๔ กล่าวถึงการเปลี่ยนสถานภาพ
๙๗. คำประพันธ์ในข้อใดกล่าวถึงสิ่งที่แสดงวัฒนธรรมไทย
๑. ยาตรยาตรบาทห่อนกระชั้น ช่วงเท้าเทาเสมอ
๒. แก้วก่องทองสลับล้วน ร่วงรุ้งเรืองแสง
๓. แห่อยู่สองข้างเข้า คู่คล้อยเคียงไคล
๔. บังแทรกสองคู่สล้าย สลับริ้วฉัตรเรียง
เหตุผล ข้อ ๔ บังแทรกและฉัตร เป็นเครื่องสูงของเจ้านายในวัฒนธรรมไทย
ข้อ ๑, ๒, ๔ ไม่มีคำใดแสดงวัฒนธรรมไทย
๙๘. คำประพันธ์ในข้อใด ไม่ แสดงความเชื่อของคนไทย
๑. ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์ จงไปอุบัติเอาชาติใหม่
๒. ถ้าวาสนาเราเคยบำรุงรัก ก็จะเป็นภักษ์ผลสืบไป
๓. กรรมเวรสิ่งใดดังนี้ ทูลพลางโศกีรำพัน
๔. จะได้รองเบื้องบาทา ไปกว่าจะสิ้นชีวี
เหตุผล ข้อ ๔ “จะอยู่รับใช้ไปจนกว่าจะตาย” ไม่ได้แสดงความเชื่อใดๆ
ข้อ ๑ “เกิดชาติใหม่” เป็นความเชื่อของคนไทย
ข้อ ๒ “วาสนา” เป็นความเชื่อของคนไทย
ข้อ ๓ “กรรมเวร” เป็นความเชื่อของคนไทย
๙๙. ข้อใดมีชื่อดอกไม้มากที่สุด
๑. ชมสร้อยฟ้าสารภียี่สุ่นเทศ
๒. พิกุลบุนนาคนมสวรรค์
๓. กิ่งกาหลงชงโคมะลิวัลย์
๔. เกดแก้วจำปามหาหงส์
เหตุผล ข้อ ๔ ชื่อดอกไม้ = เกด, แก้ว, จำปา, มหาหงส์ รวม ๔ ชื่อ
ข้อ ๑ ชื่อดอกไม้ = สร้อยฟ้า, สารภี, ยี่สุ่นเทศ รวม ๓ ชื่อ
ข้อ ๒ ชื่อดอกไม้ = พิกุล, บุนนาค, นมสวรรค์ รวม ๓ ชื่อ
ข้อ ๓ ชื่อดอกไม้ = กาหลง, ชงโค, มะลิวัลย์ รวม ๓ ชื่อ
๑๐๐. ข้อใด ไม่ได้ กล่าวถึง “ช้าง”
๑. งามเร่งงามโทท้าว ท่านสู้ศึกสาร
๒. สารทรงราชรามัญ ลงล่าง แลนา
๓. ไพเราะราชสุภา ษิตสื่อ สารนา
๔. ตรึกอกพกตกขว้ำ อยู่เบื้องบนสาร
เหตุผล ข้อ ๓ “สาร” ในข้อนี้หมายถึง “ข้อความ”
ข้อ ๑, ๒, ๔ “สาร” ในข้อนี้แปลว่า “ช้าง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น